ranchoel60.com
จำเป็นต้องสร้างฐานลูกค้าที่มีความภักดีต่อแบรนด์ เพื่อรักษาฐานลูกค้าของแบรนด์ให้ยังคงกลับมาใช้บริการปกติ และรักษาการใช้จ่ายเอาไว้ 2. จากการที่ผู้บริโภคออกจากที่อยู่อาศัยน้อยลง ร้านอาหาร ร้านเพื่อความบันเทิงและการผ่อนคลาย และร้านกิจกรรมเพื่อสุขภาพมีความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนจุดโฟกัสใหม่เพื่อที่จะรักษาธุรกิจและการทำกำไรทั้งในระยะสั้นและระยะยาว อย่างเช่น ร้านอาหารจะต้องเพิ่มบริการส่งถึงบ้าน และจัดการเรื่องความสะอาดมากขึ้น ธุรกิจโรงภาพยนตร์ควรสร้างบริการสตรีมภาพยนตร์ออนไลน์แบบเก็บค่าธรรมเนียม ธุรกิจสถานบันเทิงสตรีมคอนเสิร์ตออนไลน์ บาร์เสมือน (Virtual Bar), หรือการบริการส่งเครื่องดื่มถึงบ้าน 3. ร้านขายยาและความงาม ห้างสรรพสินค้า และร้านกิจกรรมเพื่อสุขภาพที่อยู่ในพื้นที่ทำเลเดียวกัน อาจจับมือทำโปรโมชั่นร่วมกันหลังจากเหตุการณ์โควิด-19 ได้ผ่านพ้นไป เช่น ส่วนลดพิเศษสำหรับสมาชิก วางแผนการสื่อสารร่วมกันเพื่อดึงคนเข้ามาใช้บริการ และจัดมาตรการช่วยเหลือพนักงานที่ได้รับผลกระทบในช่วงเหตุการณ์โควิด-19 เป็นต้น อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ ที่ Website: / Facebook: marketeeronline อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Facebook: ติดตาม Marketeer Online ทาง Line@: @marketeer
พฤติกรรมการซื้อสินค้าเปลี่ยนแปลงไปในช่วงการระบาดครั้งใหญ่ ดังนั้นนักการตลาดควรตอบสนองหรือปรับตัวอย่างไร เมื่อปลดล็อคและยกเลิกมาตราการ social-distancing ธุรกิจจะกลับมาเป็นปกติได้อย่างรวดเร็วหรือไม่? หรือเราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้งในรูปแบบการซื้อและความพึงพอใจของลูกค้าหรือไม่? ซึ่งนี้คือเป็นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคหกประการอันเป็นผลมาจากการระบาดใหญ่ของโคโรน่าไวรัสที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการตลาดควรตระหนัก 1.
ระยะเวลาที่ใช้พิจารณาคอนโดมิเนียนก่อนตัดสินใจซื้อ ต่ำกว่า 1 เดือน 1-3 เดือน 4-6 เดือน มากกว่า 6 เดือน 11. บุคคลที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อ ตัดสินใจด้วยตัวเอง คู่สมรส บิดา มารดา พนักงานขาย เพื่อน 12. วัตถุประสงค์ในการตัดสินใจซื้อ แยกครอบครัว บ้านหลังที่ 2 เพื่อความสะดวกสบาย เพื่อการลงทุน ส่วนที่ 3 ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่มีผลต่อพฤติกรรมการตัดสินใจซื้อคอนโดมิเนียมระดับกลาง คำชี้แจง: โปรดเลือกข้อที่ตรงตามระดับความสำคัญของท่านมากที่สุดโดยหมายเลข 1 = น้อยที่สุด 2 = น้อย 3 = ปานกลาง 4 = มาก 5 = มากที่สุด ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่มีผลต่อพฤติกรรมการตัดสินใจซื้อคอนโดมิเนียมราคาระดับกลางของผู้บริโภค ระดับความสำคัญ มากที่สุด มาก ปานกลาง น้อย น้อยที่สุด 13. ด้านผลิตภัณฑ์ 5 4 3 2 1 13. 1. สไตล์ / รูปแบบคอนโดมิเนียม มีความทันสมัย 13. 2. คอนโดมิเนียมมีขนาดของห้องให้เลือกหลายขนาด 13. 3. การจัดวางแบบแปลนภายในห้องชุดมีความเหมาะสม 13. 4. สิ่งอำนวยความสะดวก เช่น สโมสร สระว่ายน้ำ 13. 5. ชื่อเสียงของเจ้าของโครงการ 14. ด้านราคา 14. ราคาขายของโครงการมีความคุ้มค่ามาก 14. ราคาเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและทำเลที่ตั้ง 14.
เงื่อนไขการผ่อนชำระของโครงการมีความจูงใจ 14. มีการจัดหาสินเชื่อจากสถาบันการเงินที่หลากหลาย และอัตราดอกเบี้ยต่ำ 15. ด้านช่องทางจัดจำหน่าย 15. ทำเลที่ตั้งของสำนักงานขายในการติดต่อสะดวกในการเดินทาง 15. โครงการมีเว็บไซค์ให้เข้าชมและมีข้อมูลที่สามารถ ดึงดูดความสนใจได้ 15. ทำเลที่ตั้งของโครงการอยู่ใกล้ระบบขนส่ง เช่น รถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน แอร์พอร์ตลิงก์ 16. ด้านส่งเสริมการตลาด 16. การมอบส่วนลดพิเศษ 16. โครงการมีการจัดโปรโมชั่นของแถมเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น เครื่องปรับอากาศ ไมโครเวฟ ทีวี ที่น่าสนใจ 16. โครงการร่วมกับพันธมิตรเพื่อมอบสิทธิพิเศษให้ลูกค้า 16. การจัดรายการส่งเสริมการขายสำหรับลูกค้าที่ตัดสินใจจองโครงการในช่วงแนะนาโครงการมีความจูงใจมาก 16. การจัด บูธ ตามสถานที่ต่างๆ เช่น ศูนย์การค้า ส่วนที่ 4 แบบสอบถามคุณภาพการบริการ ที่มีผลต่อพฤติกรรมการตัดสินใจซื้อคอนโดมิเนียมระดับกลาง ปัจจัยคุณภาพการบริการที่มีผลต่อพฤติกรรมการตัดสินใจซื้อคอนโดมิเนียม 17. ปัจจัยด้านคุณภาพ 17. ความเชื่อถือได้ของการก่อสร้างที่ระบุไว้ในสัญญา 17. การรับประกันผลงานหลังการส่งมอบห้องชุด 17. การดูแลเอาใจใส่และตอบสนองข้อเรียกร้องของลูกค้า 17.
คนรวยออมเงินเพิ่มขึ้น ขณะที่คนฐานะปานกลางหรือต่ำต้องนำเงินออมออกมาใช้ คนส่วนใหญ่กำลังลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น และรายจ่ายในกิจกรรมที่ทำให้เสี่ยงติดโควิด จากข้อมูลของศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ พบว่า ปัจจุบันปริมาณเงินฝากทั้งระบบของไทยปรับตัวเพิ่มขึ้น หากเทียบระหว่าง พ. 2564 กับ ก. พ. 2563 เพิ่มขึ้นถึง 1. 78 ล้านล้านบาท สาเหตุที่เพิ่มมาจากผู้มีรายได้สูงออมมากขึ้น รองรับความเสี่ยงจากเศรษฐกิจที่ผันผวน EIC ยังคาดว่าอัตราการออมมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต ตามความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและการระบาดของโรคที่มีอยู่ ขณะที่จากผลสำรวจของสวนดุสิตโพล ในประชาชน 1, 274 คน พบว่าผู้บริโภคระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น และมีประชาชนมากถึง 46. 78% ที่ต้องนำเงินออมออกมาใช้ โดยมี 15. 15% ใช้เงินออมไปแล้วกว่าครึ่ง 19. 36% ที่ใช้เงินออมไปเกือบหมด และ 12. 64% บอกว่าใช้เงินออมไปหมดแล้ว นอกจากนี้ ผลสำรวจของ PwC ชี้ว่า 44% ของผู้บริโภคใช้จ่ายในกิจกรรมเกี่ยวกับศิลปะ วัฒนธรรม และกีฬา ลดลง 41% ของผู้บริโภคลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยว 57% ของผู้บริโภคมีแนวโน้มลดค่าใช้จ่ายในการรับประทานอาหารนอกบ้านจนถึงสิ้นปี 2564 เรียกว่าปัจจุบันคนรวยกำลังออมมากขึ้น ขณะที่คนจนกำลังเอาเงินออมออกมาใช้ โดยจากผลสำรวจของสวนดุสิตโพล มีถึง 37.
37% ของประชาชนบอกว่า สามารถประคองตัวได้อีกไม่เกิน 3 เดือน 3. ผู้บริโภคสนใจเรื่องมาตรการสุขอนามัยและความปลอดภัย ผลสำรวจของ PwC พบว่า หนึ่งในสามของผู้บริโภคให้ความสำคัญกับมาตรการป้องกันโควิด-19 ของร้านค้า ผู้บริโภคจำนวนมากเลือกชำระเงินแบบไม่ใช้เงินสด เพื่อลดความเสี่ยงสัมผัสเชื้อ ทั้งนี้จากข้อมูลธนาคารแห่งประไทย พบว่าในปี 2563 คนไทยใช้ e-Payment โดยเฉลี่ยต่อคนอยู่ที่ 151 ครั้ง เพิ่มจากปี 2559 ถึง 3 เท่า 4. ผู้บริโภคใช้เวลาตัดสินใจซื้อนานขึ้นสำหรับสินค้าราคาสูง จากผลสำรวจของวันเดอร์แมน ธอมสัน ร่วมกับแดทเทลพบว่า สำหรับสินค้าที่ผู้บริโภคต้องหาข้อมูลมากหรือคิดเยอะๆ ก่อนซื้อ เนื่องจากสินค้ามีราคาสูงเมื่อเทียบกับรายได้ เช่น รถยนต์ อสังหาริมทรัพย์ เครื่องใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ผู้บริโภคเลือกงดบริโภคหรือใช้เวลาในการตัดสินใจซื้อนานขึ้น โดยในผู้บริโภคที่รายได้ต่อเดือนต่ำกว่า 40, 000 บาท มีมากถึง 57% หรือเกินครึ่งที่ลังเลในการตัดสินใจซื้อสินค้าประเภทนี้ ทั้งจากความจำกัดของรายได้ และมองว่าสินค้าเหล่านี้ไม่ใช่สินค้าจำเป็นในขณะนี้ 5. ในต่างจังหวัด พบว่ามีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น เนื่องจากประชาชนบางส่วนย้ายออกจากกรุงเทพฯ กลับสู่ภูมิลำเนาหรือต่างจังหวัดช่วงโควิด จากมาตรการ work from home และหลายกิจการปิดตัว ทำให้คนตกงานมาก แรงงานบางส่วนย้ายกลับต่างจังหวัด เพื่อประหยัดค่าครองชีพ ทั้งนี้อ้างอิงจากศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี พบว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคในภูมิภาคต่างๆ เพิ่มขึ้น โดยหากเทียบระหว่างเดือนส.
ส่วนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม คำชี้แจง: โปรดเลือกข้อที่ตรงกับข้อมูลส่วนตัวของท่าน 2. อายุ 20 – 30 ปี 31 – 40 ปี 41 – 50 ปี มากกว่า 51 ปี 3. สถานะ โสด สมรส/อยู่ด้วยกัน หม้าย/หย่าร้าง/แยกกันอยู่ อื่นๆ โปรดระบุ 4. ระดับการศึกษา ต่ำกว่าปริญญาตรี ปริญญาตรี ปริญญาโท สูงกว่าปริญญาโท 5. อาชีพ ข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ พนักงานบริษัทเอกชน ธุรกิจส่วนตัว 6. รายได้เฉลี่ยต่อครอบครัว ต่ำกว่า 50, 000 บาท/เดือน 50, 001 – 60, 000 บาท/เดือน 60, 001 – 70, 000 บาท/เดือน 70, 001 – 80, 000 บาท/เดือน 80, 001 – 90, 000 บาท/เดือน มากกว่า 90, 001 บาท/เดือน ส่วนที่ 2 พฤติกรรมการตัดสินใจซื้อคอนโดมิเนียมระดับกลางของผู้บริโภค คำชี้แจง: โปรดเลือกข้อที่ตรงกับความเป็นจริงของท่าน 7. ลักษณะของคอนโดมิเนียมที่ท่านต้องการ ห้อง Studio 1 ห้องนอน 2 ห้องนอน 8. ขนาดพี้นที่ใช้สอยของคอนโดมิเนียมที่ท่านต้องการ 25 - 35 ตารางเมตร 36 - 45 ตารางเมตร 46 - 55 ตารางเมตร 56 - 65 ตารางเมตร มากกว่า 65 ตารางเมตร 9. งบประมาณในการซื้อคอนโดมิเนียมของท่าน 1, 500, 001 - 2, 000, 000 บาท 2, 000, 001 - 2, 500, 000 บาท 2, 500, 001 - 3, 000, 000 บาท 3, 000, 001 - 4, 000, 000 บาท 4, 000, 001 - 5, 000, 000 บาท 10.