บ ว ด เผือก

ranchoel60.com

11 ภาษา ญี่ปุ่น – สรุปไวยากรณ์ภาษาญี่ปุ่นพื้นฐาน บทที่ 11 - Youtube

4 เมื่อช่วงเที่ยงคืนของวันพุธตามเวลาท้องถิ่น โดยจุดศูนย์กลางของแรงสั่นสะเทือนนั้นอยู่ที่จังหวัดฟุกุชิมะ ทางภาคตะวันออกของประเทศ ซึ่งเป็นจุดเดียวกับที่เคยเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นเมื่อ 11 ปีก่อน ที่มา: รอยเตอร์

มาเรียนภาษาญี่ปุ่นกันเถอะ-บทเรียน 11 | NHK WORLD เรดิโอแจแปน

อาจจะดูเหมือนเป็นประโยคคำถามแบบง่าย ๆ แต่เมื่อต้องใช้ในประเทศญี่ปุ่นกลับไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แม้แต่กับคนญี่ปุ่นบางคนหรือโดยเฉพาะเด็ก ๆ ถือว่าเป็นเรื่องที่ท้าทายและอาจทำให้คุณตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอึดอัดได้เช่นกัน เพราะสำหรับคนต่างชาติที่เพิ่งมาเรียนภาษาในประเทศญี่ปุ่น อาจสับสันระหว่างคำว่า ฟุตะทสึ (แปลว่า สองอัน) กับ ฟุตาริ (แปลว่า สองคน) และอาจจะเผลอสั่งบาร์บีคิวไปว่า "ฟุตาริ โอเนไกชิมัส (ขอสั่งบาร์บีคิวสองคนค่ะ! )" ซึ่งคนขายคงตกใจไม่น้อยเลยทีเดียว!

นับเลขสไตล์ญี่ปุ่นแสนสนุก แต่ก็ชวนปวดหัวสุด ๆ (เราเตือนคุณแล้วนะ!) | Japan Info - ภาษาไทย

บนโลกนี้มีหลายภาษาที่ใช้บ่งบอกลัษณะต่าง ๆ เช่น การออกเสียง คำ และแม้แต่ภาษาพูด ตัวอย่างเช่น ภาษาเยอรมันถูกมองว่าหยาบกระด้างและมีเสียง "ach" ที่ฟังดูกระโชกโฮกฮาก, ภาษาฝรั่งเศสถูกมองว่าพูดไม่รู้เรื่องเหมือนมีอะไรอยู่ในปากตลอดเวลาและมีเสียงลาก "ee" และไม่มีเสียง h, คนออสเตรเลียเวลาพูดก็จะเน้นการออกท่าทาง, ภาษาจีนถูกมองว่าโหวกเหวกโวยวายและมีการออกเสียงและวรรณยุกต์ที่แตกต่างกันไป, ภาษาต่าง ๆ ของประเทศอินเดียขึ้นชื่อเรื่องการกระดกลิ้นและการขยับศีรษะราวกับต้องเต้นไปด้วย แล้วภาษาญี่ปุ่นล่ะ? ในขณะที่คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่มีความสุภาพและอ่อนโยน (ยกเว้นเวลาที่พวกเขาเมา) ในทางภาษาศาสตร์แต่ละคำก็มีส่วนสำคัญในการกำหนดโทนเสียงและวิธีออกเสียงของตัวมันเอง ตัวอย่างเช่น ภาษาอิตาลี คำว่า "Delicioso! " หรือ "Mamma Mia! " มีโทนเสียงที่สดใสและมีชีวิตชีวา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมอิตาลี ในภาษาญี่ปุ่นก็มีคำคุณศัพท์ที่มักจะเกิดจากการเลียนเสียงการกระทำเหล่านั้น คำศัพท์ในภาษาญี่ปุ่นบางครั้งมีการออกเสียงซ้ำสองครั้ง ซึ่งอาจจะทำให้คนต่างชาติสับสนได้ ซึ่งการพูดคำซ้ำ ๆ ในภาษาญี่ปุ่น จะช่วยเน้นให้คำศัพท์ฟังดูน่ารัก โดยเฉพาะการแสดงออกท่าทาง (เช่น หน้าเป็ด ท่าชูสองนิ้ว ท่ากระโดด และอื่น ๆ) คนทุกเพศสามารถใช้คำเหล่านี้ได้ แต่เวลาผู้หญิงใช้อาจจะดูน่ารักคาวาอิเป็นพิเศษ 1.

11 ภาษาญี่ปุ่น

  1. หุ้น e commerce ไทย
  2. Power buy สาขา ลำปาง tv
  3. Fila shoes ราคา
  4. เชียงราย รถ บ้าน 96
  5. รู้จัก 11 คำศัพท์ภาษาญี่ปุ่นน่ารัก ๆ และมาลองพูดให้เหมือนคนญี่ปุ่นคุยกัน!
  6. ป้าย รับ ซ่อม ผ้า
  7. ทัวร์ในประเทศ TRFD01 : ทัวร์ทะเลตรัง ดำน้ำดูปะการัง BY FD | UNITHAI Trip
  8. แปล เพลง beautiful sunday links
  9. ตลาดท่ารั้ว
  10. Survival - รวบรวม Map ของ Tackle ตั้งแต่ Map แรกจนถึง Map ล่าสุด(เอาชีวิตรอด) | ชุมชนชาว Minecraft ประเทศไทย (Minecraft Thailand Community)
  11. SP Takegawa:ขายึดท่อไอเสีย (เหล็ก) - Webike Thailand

สรุปไวยากรณ์ภาษาญี่ปุ่นพื้นฐาน บทที่ 11 - YouTube

11. ぺらぺら (pera pera) คำศัพท์ในภาษาญี่ปุ่นคำนี้ใช้เวลาที่สามารถพูดภาษาต่าง ๆ ได้อย่าคล่องแคล่ว สมมติว่าคนไทยไปอยู่ญี่ปุ่นเป็นเวลานาน ๆ ในที่สุดก็เก่งภาษาญี่ปุ่นและสามารถพูดภาษาญี่ปุ่นได้อย่างคล่องแคล่ว เช่น 私は日本語がぺらぺら話せるようになりたいです。 Watashi wa nihongoperapera hanaseruyouni naritaidesu ฉันอยากพูดภาษาญี่ปุ่นให้คล่อง ๆ 日本語ペラペラ。 Nihongo perapera พูดภาษาญี่ปุ่นเก่งมาก คล่องมาก นอกจากนี้ยังมีคำอื่น ๆ อีกมากมาย ลองจินตนาการคำต่าง ๆ ไปพร้อมกับท่าทางต่าง ๆ ดู! จะเห็นได้ว่าภาษาญี่ปุ่นช่างน่ารักสุด ๆ ไปเลย ที่มา:

เรียนภาษาญี่ปุ่นตอนที่ 10 นับเลขภาษาญี่ปุ่น 11-19 - ศูนย์การแปลนานาชาติ ทีไอเอส ทรานสเลชั่น 027309933

บทที่ 11 ที่นี่ ที่นั่น ที่โน่น ที่ไหน ここ、そこ、あそこ、どこ อ่าน 75, 536 ครั้ง ここ、そこ、あそこ、どこ เป็นคำสรรพนามแทนสถานที่ มีรูปแบบการใช้งาน คือ 「ここ」 「そこ」 「あそこ」 + は +「คำนาม」+ です 「คำนาม」+ は +「どこ」+ ですか 「どこ」+ が +「คำนาม」+ ですか ① ここ は どこ です か。 Koko wa doko desu ka ที่นี่ที่ไหนครับ/ค่ะ ② ここ は 学校 です。 Koko wa gakkou desu ที่นี่โรงเรียนครับ/ค่ะ ③ すみません、 そこ は 図書館 です か。 Sumimasen, soko wa toshokan desu ka ขอโทษ ที่นั่นคือห้องสมุดหรือครับ/ค่ะ ④ いいえ、 そこ は 図書館 では ありません。病院 です。 Iie, soko wa toshokan dewa arimasen.

แผ่นดินไหวญี่ปุ่นกระทบการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์

การนับจำนวนคน เราสามารถนับจำนวนคนโดยใช้คันจิตัวเขียน 人 ซึ่งอ่านออกเสียงว่า "นิน (nin)" ซึ่งคันจิตัวนี้ยังสามารถออกเสียงรูปแบบอื่นได้อีกด้วย คือ ฮิโตะ (hito) และ จิน (jin) โดยการถามว่า มีทั้งหมดกี่คน? สามารถพูดเป็นภาษาญี่ปุ่นได้ว่า "นันนิน (Nannin? )" คุณสามารถตอบคำถามนี้ได้โดยการเติมคำว่า "นิน (nin)" ต่อท้ายตัวเลข (เช่น 8 คน – ฮาจินิน hachinin) ยกเว้น 1 คน, 2 คน และ 4 คนที่จะมีวิธีออกเสียงพิเศษ ดังนี้: 一人 1 คน – ฮิโตริ (hitori) 二人 2 คน – ฟุตาริ (futari) 三人 3 คน – ซันนิน (sannin) 四人 4 คน – โยะนิน (yonin) ไม่ใช้คำว่า "ชินิน" 五人 5 คน – โก๊ะนิน (gonin) 六人 6 คน – โรกกุนิน (rokunin) 七人 7 คน – นานะนิน (nananin) 八人 8 คน – ฮาจินิน (hachinin) 九人 9 คน – คิวนิน (kyuunin) 十人 10 คน – จูนิน (juunin) B. การนับสิ่งของ 1. สำหรับสิ่งของที่มีลักษณะยาว หรือเป็นทรงกระบอก (เช่น สิ่งของที่เป็นแท่ง หรือขวด) คุณสามารถถามจำนวนโดยการออกเสียงว่า "นัม บง (Nan-bon? )" และตอบคำถามเหล่านี้โดยการเติมคำว่า "ฮง (hon)" หรือคันจิตัวเขียน 本 ซึ่งการออกเสียง "ฮง" สามารถเปลี่ยนเป็นเสียง "ปง" และ "บง" ได้ด้วยเช่นกันขึ้นอยู่กับเลขที่นำหน้า ดังนี้ 一本 1 แท่ง – อิปปง (ippon) 二本 2 แท่ง – นิฮง (nihon) 三本 3 แท่ง – ซัมบง (sanbon) 四本 4 แท่ง – ย่งฮง (yonhon) 五本 5 แท่ง – โก๊ะฮง (gohon) 六本 6 แท่ง – รปปง (roppon) 七本 7 แท่ง – นานะฮง (nanahon) 八本 8 แท่ง – ฮัปปง (happon) 九本 9 แท่ง – คิวฮง (kyuuhon) 十本 10 แท่ง – จู๊ปปง (juppon) 2.